ความทรงจำดีๆก่อตัวขึ้นที่งาน “JUNG HAE IN ‘One Summer Night’ Fan Meeting Tour 2019”
ความทรงจำดีๆกำลังก่อตัวขึ้น 9NA Company Limited Present “JUNG HAE IN ‘One Summer Night’ Fan Meeting Tour 2019” จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562 ณ GMM Live House เซ็นทรัลเวิลด์
เปิดตัวด้วยเสียงเพราะๆของหนุ่มเจ้าเสน่ห์ จองแฮอิน กับเพลง 모든 날, 모든 순간 (Every Day, Every Moment) – 폴킴 (Paul Kim) บรรยากาศอบอุ่นปกคลุมไปทั่วฮอลล์ หลังจากแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ แฮอินบอกว่ามีความสุขมากๆที่วันนี้ได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งและได้พบกับแฟนๆทุกคนอีกครั้ง แฮอินเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆตัวเองเคยมาเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ บวกกับปีที่แล้วได้มีโอกาสมาแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทย แฟนมีตติ้งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 รวมๆแล้วก็นับว่าแฮอินมาประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3 แฮอินยังบอกแฟนๆว่า “ขอบคุณทุกๆคนมากที่สละเวลาอันมีค่ามาหากัน ณ วันนี้ อยากให้ทุกคนมีความทรงจำและความสนุกร่วมกันในวันนี้”
ก่อนเริ่มพูดคุย งานนี้มี Welcome Drink สุดพิเศษสำหรับแฮอินโดยเฉพาะ ทีมงานนำน้ำแตงโมปั่นของโปรดมาให้แฮอิน MC ถามว่ามาถึงประเทศไทยได้ดื่มน้ำแตงโมปั่นหรือยัง ? แฮอิน : “ครั้งนี้ยังไม่ได้ดื่มครับ แต่ว่าชอบน้ำแตงโมปั่นมากครับ” ยกแก้วน้ำแตงโมดื่ม แถมบอกต่อว่า “อร่อยมากครับ อร่อยมากๆเลยครับ ชอบน้ำแตงโมปั่นมากครับ” แฟนๆต่างยิ้มไปกับความน่ารักของแฮอินและน้ำแตงโมปั่นของเขา คนอะไร ดื่มน้ำแตงโมปั่นยังน่ารักขนาดนี้
หลังจากดื่มน้ำแตงโมปั่นอย่างหนำใจ ก็ไปพูดคุยกันต่อในช่วง Hae In’s Pic เป็นการโชว์รูปที่แฮอินเลือกมาให้แฟนๆดูในงานนี้โดยเฉพาะ
รูปที่ 1 เป็นรูปตอนที่แฮอินถ่ายโฆษณาประกันชีวิตของซัมซุง ในฉากมีเครื่องปั้นดินเผา “รู้สึกว่าแต่งตัวเข้ากับบรรยากาศ เข้ากับฉากเลยอยากจะถ่ายรูปเก็บบรรยากาศนี้ไว้ “
รูปที่ 2 เป็นรูปตอนที่แฮอินถ่ายโฆษณาอีกแล้ว เป็นการถ่ายโฆษณาเครื่องสำอาง “วันที่ถ่ายอากาศดีมาก รู้สึกอารมณ์ดีมีความสุขมาก เลยอยากจะเก็บบรรยากาศเอาไว้เช่นกัน“ แถมมีบอกอีกว่า “เสื้อบางไปหน่อย ตอนถ่ายอันตรายนิดนึงครับ ^^”
รูปที่ 3 เปิดขึ้น แฮอินเองแอบลืมและบอกว่า “เอ..รูปนี้ถ่ายเมื่อไหร่นะครับ อ่อๆ เป็นรูปตอนที่สแตนบายรอในงานโปรโมทภาพยนตร์ครับ”
MC ถามว่ารูปนี้ยังไม่มีใครเคยเห็นใช่ไหมครับ หรือว่าเคยโพสต์ลงไปบ้างหรือยัง ?
แฮอิน : “จริงๆผมก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเหมือนกันครับ จำไม่ค่อยได้ แต่เห็นคำอธิบายก็เลยนึกออกครับ”
MC เริ่มถามคำถามทั่วไปที่รวบรวมมาจากแฟนๆ
MC : ทำงานหนักไหม เป็นอย่างไรบ้าง ?
แฮอิน : “ช่วงกลาง-ปลายเดือนธันวาคมจะมีกำหนดฉายภาพยนต์ของผมครับ เพิ่งเดินทางไปถ่ายทำรายการที่นิวยอร์คมา จะได้เห็นเรื่องราวที่ผมไปท่องเที่ยวทางทีวีด้วยครับ”
MC : ช่วงนี้สนใจทำอะไรเป็นพิเศษไหม ?
แฮอิน : “ช่วงนี้สนใจเรื่องการแสดง เร็วๆนี้มีผลงานที่จะเปิดกล้อง เรื่องราวสนุกมาก แต่ในแง่ของการแสดงไม่ง่ายเลย จึงอยากจะทุ่มเทให้กับการแสดง อยากจะรีบทำงานนั้นเร็วๆแล้วครับ”
MC : มีทั้งเรื่องที่กำลังจะเปิดกล้อง มีทั้งเรื่องที่จะกำลังออนแอร์ด้วย ที่สำคัญได้ข่าวว่างานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาก็เยอะมากเหมือนกัน เหนื่อยไหมครับ ?
แฮอิน : “จริงๆแล้วก็เหนื่อยมากครับ เป็นเรื่องแปลกมากครับตั้งแต่นั่งสแตนบายก่อนขึ้นเวทีก็รู้สึกตัวเองเหนื่อย ทำงานหนัก แต่พอได้ขึ้นมาบนเวทีแล้วเห็นแฟนๆ แบบนี้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ” แฟนๆส่งเสียงกรี๊ดให้กำลังใจ หลักจากที่ได้ยินเสียงกรี๊ดจากแฟนๆอีกครั้งแฮอินบอกว่า “หายเหนื่อยเลยครับ รู้สึกว่าต้องมาประเทศไทยบ่อยๆแล้วล่ะครับ”
ต่อกันที่โพสต์อิท คำถามที่แฟนๆตั้งใจถามแฮอิน
คำถามจากแฟนๆ : อยากแสดงบทร้ายแบบไหน ?
แฮอิน : “ถ้าจะร้ายก็ต้องร้ายให้ตลอด การแสดงบทร้ายเป็นบทที่ยากและท้าทาย ผมอาจจะยังไม่ถึงจุดที่พร้อมสำหรับแสดงบทร้าย ในอนาคตถ้าได้แสดงบทร้าย ฆ่าคนโดยหน้านิ่งๆ แฟนๆก็ไม่ต้องตกใจนะครับ”
คำถามจากแฟนๆ : ช่วยบอกเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพผิวหน่อย เพราะหน้าเด็กมาก อยากหน้าเด็กบ้างค่ะ ?
แฮอิน : “จริงๆไม่มีเคล็ดลับการดูแลผิวครับ ไม่ได้ทำอะไรมากครับก็แค่ดื่มน้ำเยอะๆ ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทาครีม ถ้ารู้สึกว่าหน้าแห้งก็มากส์หน้าด้วยครับ ไม่ค่อยได้ไปคลินิคผิวหนังด้วยครับ ยกเว้นถ้ามีสิวเม็ดใหญ่มากจนเป็นอุปสรรคต่อการถ่ายทำ สิ่งสำคัญคิดว่าเป็นการดื่มน้ำเยอะๆ ครับ ช่างแต่งหน้าแต่งให้เนียนสนิทเลย จริงๆผิวหน้าผมไม่ได้เนียนขนาดนั้นครับ”
คำถามจากแฟนๆ : เป้าหมายของปีนี้ที่วางเอาไว้ คืออะไร?
แฮอิน : “ปีนี้เหลืออีกไม่กี่เดือนเท่านั้น อยากจะใช้เวลาอีกไม่กี่เดือนของปีนี้อย่างมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญอยากจะใช้เวลากับครอบครัว เพราะที่ผ่านมาทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่และน้อง อยากจะใช้เวลาด้วยกันกับครอบครัวครับ”
MC : พาคุณพ่อคุณแม่และน้องมาเที่ยวประเทศไทยได้นะครับ
แฮอิน : “ถ้าให้มาเที่ยวกับครอบครัวก็น่าจะเป็นความคิดที่ดีนะครับ”
คำถามจากแฟนๆ : เมื่อถึงประเทศไทยคิดถึงอะไรเป็นสิ่งแรก ?
แฮอิน : “พูดถึงประเทศไทยสิ่งแรกที่กถึงเลยก็คือแฟนๆชาวไทยและงานแฟนมีตติ้งที่เพิ่งจัดไปเมื่อปีที่แล้ว เพราะว่าปีที่แล้วผมสั้นมาก”
MC : แฮอินชอบไว้ผมสั้นหรือผมยาวมากกว่ากัน ?
แฮอิน : “ส่วนตัวชอบผมสั้น แต่ตอนนี้กำลังไว้ผมเพื่อเตรียมตัวผลงานใหม่”
คำถามจากแฟนๆ : พี่ต้องสัญญานะว่าจะกลับมาอีก หนูชอบรอบยิ้มของพี่มากๆ หวังว่าปีหน้าเราจะได้เจอกันอีกนะคะ ?
แฮอิน : “จะตั้งใจมีผลงานออกมาเรื่อยๆ เพื่อปีหน้าและปีต่อๆไปจะได้กลับมาเจอกันครับ อยากจะมาเที่ยวที่ประเทศไทยแล้วล่ะครับตอนนี้”
ในเกมส์ TOURNAMENT TMI ให้แฟนๆเลือกระหว่าง O X คำถามเจาะลึก ที่แฟนๆทั้งฮอลล์ ได้ร่วมสนุกเพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดี โจทย์บนจอเป็นภาษาไทย แฮอินอ่านออกเสียงเกาหลีเพื่อให้แฟนๆที่มาจากเกาหลีฟังและร่วมกิจกรรมด้วย
ระหว่าง O กดปุ่มปิดเมื่อเข้าลิฟต์ กับ X รอให้ลิฟต์ปิดเองอัตโนมัติไม่ต้องกดปิด
แฮอินเลือก รอให้ลิฟต์ปิดเองอัตโนมัติไม่ต้องกดปิด แถมบอกว่า “จริงๆผมก็ไม่ได้รีบนะครับ แต่ถ้าวันไหนรีบก็จะกดปุ่มปิด”
ระหว่าง O ทนหิวดีกว่า กับ X ทนง่วงดีกว่า
แฮอินเลือก ทนง่วงดีกว่า คำตอบนี้เล่นเอาแฟนๆหายไปครึ่งฮอลล์
ระหว่าง O ดื่มกาแฟเย็น แม้ว่าจะเป็นฤดูหนาว กับ X ชอบกินแบบร้อนมากกว่าแบบเย็น
แฮอินเลือก ดื่มกาแฟเย็น แม้ว่าจะเป็นฤดูหนาว
ระหว่าง O ทาครีมกันแดดเสมอ กับ X ทาครีมกันแดดบางครั้ง แฮอินเลือก ทาครีมกันแดดบางครั้ง
แฮอินบอกว่า “ถ้าทำงานผมก็จะทาครับ แต่ถ้าว่างๆผมทาเป็นบางครั้ง”
ระหว่าง O หยอดเหรียญในกระปุก กับ X ไม่หยอดเลย
แฮอินเลือก หยอดเหรียญในกระปุก
ระหว่าง O ทำความสะอาด และจัดเก็บระเบียบทุกวัน กับ X ผมจัดเก็บแค่วันเดียว ไม่ได้ทำทุกวัน
แฮอินเลือก ทำความสะอาด และจัดเก็บระเบียบทุกวัน แฮอินบอกว่า “ปกติผมเองเป็นคนที่ทำความสะอาดทุกวันนะครับ แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลาเลย ฟังดูเหมือนข้ออ้างนะครับแต่มันไม่มีเวลาจริงๆครับ เมื่อวานไปถึงบ้านก็แพ็คกระเป๋าแล้วก็ออกมาเลยครับ ไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้านครับ”
ระหว่าง O พกแค่โทรศัพท์และกระเป๋าเงิน เวลาออกไปข้างนอก กับ X ใส่ทุกอย่างไว้ในกระเป๋าอยู่แล้ว
แฮอินเลือก พกแค่โทรศัพท์และกระเป๋าเงิน เวลาออกไปข้างนอก
ระหว่าง O ผมจัดการกับแต้มบัตรเครดิตด้วยตัวเอง O กับ X ผมไม่รู้เลยว่ามีแต้มบัตรเครดิตอยู่เท่าไหร่
แฮอินเลือก ผมจัดการกับแต้มบัตรเครดิตด้วยตัวเอง แถมบอกว่า “เมื่อกี้ก็บอกแล้วว่าขนาดเหรียญยังสะสมเลย เพราะฉะนั้นข้อนี้ก็ต้องเก็บ”
เกมยังไม่จบแต่เราได้ผู้ที่ตอบถูก 3 คนแล้ว ได้รับของรางวัลสุดพิเศษเป็นโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นจากแฮอินไปเลย
หลังจากมอบของรางวัลให้ผู้โชคดีแล้ว แฮอินพาแฟนๆไปฟังเพลงเพราะๆ กับเพลง 바람이 불어오는 곳 – 오연준 เพลงนี้แฟนๆเปิดแฟลชแสงสีน้ำเงินที่ทีมโปรเจคเตรียมสติกเกอร์ไว้ให้ โบกไปพร้อมจังหวะและเสียงเพราะๆของแฮอิน
ต่อกันที่ช่วง Pharmacist for your soul กับยูจีโฮ เภสัชกรสุดหล่อสวมเสื้อกาวน์เหมือนออกมาจากซีรี่ส์เรื่อง One Spring Night งานนี้ทำเอาแฟนๆอยากป่วยให้คุณเภสัชยูจีโฮจ่ายยาให้กันเป็นแถว แฮอินบอกว่า “ที่ยืนอยู่ไม่ใช่จองแฮอิน แต่เป็นยูจีโฮครับ วันนี้มาเพื่อจะรักษาอาการทางใจของทุกๆคนเลยครับ วันนี้ตั้งใจมาจ่ายยาให้กับทุกคนนะครับ เสื้อกาวน์ที่ใส่อยู่ตอนนี้เป็นเสื้อกาวน์ที่ใส่ถ่ายทำซีรี่ส์ One Spring Night ด้วยครับ” ก่อนอ่านเคสแรก แฮอินบอกว่า “ตอนนี้ผมคือยูจีโฮไม่ใช่จองแฮอินนะครับ ผมเป็นคนที่ซีเรียสและก็อาจจะไม่ตลก ขอเตือนทุกคนเอาไว้ล่วงหน้าด้วยครับ” ค่ะ ไม่ตลกก็ไม่ตลกค่ะคุณเภสัชยูจีโฮ
เคสแรก จากคุณ Pensiri Payokhajornkitt “🚨🏥 มีเรื่องด่วนอยากจะขอความช่วยเหลือจากพี่เภสัชหน่อยค่ะ อยากจะปรึกษาพี่เภสัชแฮอินว่า เวลาเหนื่อยๆจากการทำงาน อะไรเป็นกำลังใจที่ดีของพี่แฮอินที่ทำให้หายเหนื่อยได้คะ แล้วถ้าตอนนี้คนทั้งฮอลเป็นคนไข้กำลังต้องการกำลังใจ 🤒💊 พี่เภสัชจะจ่ายยาอะไรให้พวกเราดีคะ พอจะมียาช่วยรักษาอาการทางใจได้ไหมน้าาา ช่วยส่งกำลังใจให้พวกเราทุกคนหน่อยได้ไหมคะ รออยู่น้าาาา💙🐧 เพราะพี่แฮอินคือกำลังใจที่ดีที่สุดของพวกเราในทุกเวลาเสมอ รักกกกก 💙”
คุณเภสัชยูจีโฮ วินิจฉัยว่า “เคสนี้ ต้องการกำลังใจ การที่เราเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ท้อถอย อาจจะมีเรื่องของร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยด้วย จริงๆเรื่องของใจ อยากจะแนะนำให้ Love Your Self ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ทุกคนพบในสังคม สิ่งสำคัญก็คือรักตัวเองก่อนครับ และอยากบอกทุกๆคนที่อยู่ที่นี่เลย อย่าลืมนะครับว่าทุกคนเป็นคนที่สำคัญในโลกนี้และเป็นคนพิเศษด้วย เพราะฉะนั้นต้องให้เกียรติตัวเองด้วยนะครับ”
เคสที่ 2 จากคุณ BeBew Nuntapond
“Dr. Yoo Ji Ho
How do I get over FRIEND ZONE ?
—“It will be better if we’re friend” will remain deep in my heart. –
I like someone who is my friend. I give all the love to him. I expect too much with our relationship. Finally, He tell me “It will be better if we’re friend” It’s hurt and I have many questions with myself ;
– Am I not good enough for you?
– Why we’re just friend?
– Why I don’t have a chance?
– Can you give a chance to me?
Honestly, I don’t have any confidence in myself until now. What should I do? 😭
คุณเภสัชยูจีโฮ : “พูดถึงคุณบีบิวที่อยากจะก้าวข้ามเฟรนด์โซนแล้วอยากเป็นคนรัก คุณ BeBew อยู่ตรงไหนครับ รู้จักกับเพื่อนผู้ชายคนนี้มานานแค่ไหนแล้ว”
คุณ BeBew : “9 ปี”
คุณเภสัชยูจีโฮ : “เริ่มมีใจให้กับเพื่อนคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
คุณ BeBew : “ตั้งแต่ปีที่ 3 “
คุณเภสัชยูจีโฮ วินิจฉัยว่า “เป็นปัญหาที่ยากมากเลย แต่ถ้าจะให้แนะนำคุณ BeBew รู้จักกับเพื่อนมาเป็นเวลา 9 ปี จริงๆไม่ใช่ว่าคุณ BeBew ไม่ดีพอ แต่อาจจะต้องทำให้คนๆนั้นรู้สึกว่าเมื่อขาดคุณ BeBew ไปแล้วจะเป็นยังไง สำหรับผมคิดว่าจริงๆแล้วคุณ BeBew ไม่ใช่ว่าดีไม่พอสำหรับเขาหรือไม่มีโอกาส แต่จริงๆแล้วการเป็นเพื่อนมา 9 ปี เขาอาจจะไม่อยากทำลายมิตรภาพตรงนี้หรือจริงๆแล้วอาจจะชอบคุณ BeBew อยู่ก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่างที่แนะนำนะครับว่าอาจจะทำให้เค้ารู้สึกว่าถ้าไม่มีเราแล้วจะเกิดอะไรขึ้น”
เคสที่ 3 จากคุณ Ohomytai Petit Lapin
“พี่แฮอินเคยออกจาก safe zone เพื่อไปเจอ challenge ใหม่ๆในชีวิตการทำงานบ้างไหมคะ มีวิธีรวบรวมความกล้ายังไงบ้าง ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนงานค่ะ เป็น big challenge และเป็นการออกจาก safe zone ของตัวเองที่ทำอยู่มาเป็น 10 ปี อยากได้คำแนะนำค่ะ ป.ล. รอบที่แล้วไม่ได้เป็น lucky fan รอบนี้ช่วยเลือกคำถามเราบ้างนะคะ ^^”
คุณเภสัชยูจีโฮ วินิจฉัยว่า “เคสนี้อาจจะคล้ายๆกับตัวผมเอง ในชีวิตการทำงานของผมเองก็มีการเริ่มต้นใหม่ เริ่มผลงานใหม่ๆ ทุกๆครั้งที่เริ่มงานใหม่หรือผลงานใหม่ๆก็จะมีความกลัวว่าจะทำได้ดีไหม จะทำได้หรือเปล่า ตัวอย่างล่าสุดเลยคือรายการวาไรตี้ที่เดินทางไปถ่ายทำที่ต่างประเทศ ปกติผมไม่ใช่พิธีกรรายการวาไรตี้ ก็คิดเหมือนกันครับว่าหลังตอบตกลงไปแล้วจะทำได้ดีหรือเปล่า อยากให้คุณต่ายคิดเสมอว่าเราต้องมีความมั่นใจ เคารพตัวเองเหมือนที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ เราต้องเชื่อว่าเราสามารถทำได้ มี challenge ใหม่ๆ หรือโอกาสใหม่ๆให้เราได้ลองทำ และเชื่อว่าเราทำได้ ในตอนแรกเราจะกลัวอยู่เสมอว่าจะทำสิ่งใหม่ๆได้หรือเปล่า เมื่อทำลงไปแล้วความกลัวก็จะหายไปครับ” “อยากจะแนะนำเคสนี้เพิ่มเติมครับ จริงๆแล้วการเริ่มสิ่งใหม่ๆมักมาพร้อมกับความกลัว ความท้าทายแน่นอน ชีวิตมีแค่ครั้งเดียวอยากจะให้ลองทำ อยากทำอะไรให้ทำเลย ให้เชื่อมั่นว่าจะทำได้ครับ ก่อนตัดสินใจย้ายงาน อยากแนะนำให้ออกเดินทางไปที่ใหม่ๆที่ๆไม่เคยไป ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เคยไป ไปลองดูว่าเรามีความรู้สึกอย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจย้ายงานครับ”
ผู้ป่วยแต้มบุญสูงทั้ง 3 เคส ได้ขึ้นไปรับยา พร้อมเซลฟี่สุดฟินกับคุณเภสัชยูจีโฮ แถมได้กอดบำบัดโรคจากคุณเภสัชยูจีโฮด้วย
ต่อกันที่ช่วง Mission Possible 123 Sec. แฮอินต้องเล่นเกมตามมิชชั่นที่วางไว้ หากเล่นไม่ได้ แฮอินจะโดนลงโทษ กติกาคือ แฮอินต้อง กระโดดเชือกไปข้างหลัง 5 ครั้ง ปิดตาทายสิ่งของ เป่าลูกโป่งพร้อมเซ็นชื่อ นับเหรียญ 99 เหรียญ และโยนขวดน้ำ
ผลปรากฏว่าแฮอินทำมิชชั่นไม่สำเร็จ ต้องโดนลงโทษโดยผู้ที่จะมาทำโทษคือแฟนๆผู้โชคดีทั้ง 4 ท่าน บทลงโทษคือ
1. ถ่ายโพลารอยด์กับผู้โชคดี พร้อมได้เซลฟี่สุดฟินกับแฮอิน
2. กอด 3 วินาที พร้อมได้เซลฟี่กับแฮอิน
3. พูดว่า Good night แล้วอัดวีดีโอด้วยมือถือ แต่ผู้โชคดีขอเปลี่ยนให้แฮอินพูดว่า “รักน้องเจ็ท” แทน พร้อมได้เซลฟี่กับแฮอินเช่นกัน
4. รับกระดาษพร้อมลายเซ็นจากแฮอิน ที่สำคัญได้เซลฟี่กับแฮอินอีกด้วย
ตั้งแต่ต้น จนถึงตอนนี้ทั่วทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แฟนๆและแฮอินมีความสุข และสนุกมากๆ แต่ความสุขยังไม่หมดแค่นี้ ไปต่อกันที่ช่วง Oh Mazing
MC : คุณแฮอินวาดรูปเก่งไหมครับ ?
แฮอิน : “วาดไม่ค่อยเก่งครับ”
MC : ปกติแล้วได้วาดรูปบ้างไหมครับ ในระยะเวลา 1 ปี ?
แฮอิน : “ไม่ค่อยมีโอกาสได้วาดครับ ปกติก็จะเขียนอะไรเล่นๆลงในสมุดครับ”
รูปที่แฮอินต้องวาดคือ ใบหน้าของตัวเอง บนแคนวาส ด้วยมือทั้ง 2 ข้าง โดยในระหว่างวาดจะมีช่วง Saddle Time 20 วินาที ซึ่งแฮอินจะต้องทำตามคำสั่งนั้น แฮอินเริ่มวาดรูป เริ่มจากโครงหน้า เส้นผม จนถึงช่วง Saddle Time 20 วินาที แฮอินต้องปิดตา ซึ่งระหว่างที่มองไม่เห็นแฮอินก็จุดลงไปบนภาพวาด เมื่อเปิดตามาปรากฏว่าไม่ตรงตามที่คิดไว้ แฮอินจึงวาดตาลงไปอีกข้าง และพยายามจบรูปให้เป็นหน้าตัวเอง
แฮอินบอกว่า “วาดไปวาดมากลายเป็นหน้าเมเนเจอร์ จริงๆแล้วหลังจากที่ปิดตาก็วาดตาเอียงเลยต้องฝืนหน้าไปทางด้านข้างครับ” กล้องแพลนไปหาเมเนเจอร์ ปรากฎว่าเหมือนมาก รูปวาดนี้ถูกมอบเป็นที่ระลึกให้แฟนผู้โชคดีกลับบ้านไป ถือเป็นรูปวาดที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของแฮอิน ของรางวัลยังไม่หมด ช่วงสุดท้าย แฮอินแจกโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นให้กับแฟนๆอีก นับว่าเป็นงานที่ของแจกเยอะมากจริงๆ
แฮอิน : “รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมากเลยครับ อยากเล่นสนุกกันต่ออีกครับ”
MC เชิญให้แฮอินถ่ายรูปกับแฟนๆ จากนั้นก็มี VCR โปรเจคจากแฟนคลับ เป็นการเติมเต็มพลังบวกให้แฮอินพกติดหัวใจไว้ เพื่อใช้เป็นแรงผลักดันในเวลาที่เขาเหนื่อยในการทำงาน
หลังจบ VCR แฮอินหันหลังมาเจอข้อความที่แฟนๆถือ ป้ายแปลว่า ขอบคุณที่กลับมาประเทศไทยอีก แฮอินอึ้งไปสักพัก เต็มไปด้วยความประทับใจต่อแฟนๆชาวไทย
แฮอิน : “งานแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยเป็นงานสุดท้ายของปีนี้ ได้เห็น VCR ที่แฟนๆเตรียมให้ทำให้ได้คิดทบทวนอะไรหลายๆอย่าง อยากจะขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ติดตามผลงานของผม ผมก็จะตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อตอบแทนทุกๆคนครับ แม้จะไม่มีผลงานก็จะกลับมาหานะครับ”
จากนั้นแฮอินและแฟนๆก็ถ่ายภาพร่วมกัน ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ผู้จัด 9NA Company Limited จัดให้แฟนๆทุกคนเป็นพิเศษ โดยให้แฟนๆสามารถถ่ายรูปแฮอินถึงหน้าเวที ด้านแฮอินเองก็เดินบนเวทีให้แฟนๆได้ถ่ายรูปกันอย่างทั่วถึง
แฮอิน : “ขอบคุณแฟนๆที่มาในวันนี้ ขอบคุณถึงแฟนๆที่ไม่มีโอกาสมาวันนี้ด้วย และขอบคุณที่ให้กำลังใจและติดตามกันมาโดยตลอดครับ มาถึงช่วงเวลาที่เตรียมตัวอำลากันแล้ว ผมมีผลงานทั้งละครและภาพยนต์ แต่โอกาสที่จะได้มาพบกับแฟนๆแบบนี้มีไม่มากนัก เพราะโอกาสที่มีไม่มากนี้จึงรู้สึกว่าวันนี้มีช่วงเวลาที่พิเศษและอบอุ่นมาก ผมจะขอเก็บพลังและความรักนี้กลับไปทำงานครับ ขอบคุณจริงๆสำหรับกำลังใจ คำว่าขอบคุณก็คงจะไม่เพียงพอ ผมเองก็จะรักษาสุขภาพ อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพและแข็งแรง อย่าลืมรักตัวเองด้วยนะครับ สัญญาไหมครับ? และเพลงนี้เป็นเพลงที่อยากมอบให้ในค่ำคืนนี้ครับ“ แฮอินส่งท้ายด้วยเพลง 잊어야 한다는 마음으로 – 김광석
มาถึงช่วง ไฮทัช ผู้จัด 9NA Company Limited ใจดีจัดให้แฟนๆได้ไฮทัชกันทุกคน บวกกับ Photo Group เพิ่มความใกล้ชิด ถือเป็นอีกงานที่เติมพลังบวก เติมความสุข และรอยยิ้มให้แก่ทุกคนเลยจริงๆ
ขอบคุณผู้จัดใจดี 9NA Company Limited ที่พาจองแฮอินมาให้แฟนๆได้ร่วมสร้างความประทับใจด้วยกัน
Twitter : @popconth
Facebook Fanpage : Popcon TH
Website : www.popconth.com
[supsystic-gallery id=2]