ถอดบทสัมภาษณ์ นักแสดง ผู้กำกับจากงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนต์เรื่อง “One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” การันตีคุณภาพด้วยรางวัล Sundance Film Festival 2021

One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (1)

“ก่อนที่เหล้าแก้วสุดท้ายจะหมดลง
เราอยากใช้เวลาขับรถ ออกเดินทางไปกับใคร เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต”

One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

วันนี้เราจะมาพูดถึงภาพยนต์ที่หลายคนตั้งตารอคอย การันตีคุณภาพด้วยรางวัล World Dramatic Special Jury Award for Creative Vision จากเทศกาลหนัง Sundance Film Festival 2021 นั่นก็คือภาพยนต์เรื่อง “One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” ที่ในที่สุดก็คลอดกำหนดฉายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้

Q : มาลงเอยทำหนังร่วมกับคุณหว่องกาไวได้อย่างไร?
บาส :
คุณหว่องเป็นคนแรกๆที่ติดต่อเข้ามาเมื่อปี 2017 ได้บินไปพูดคุยกันก็ตกลงทำงานร่วมกัน

Q : หลังจากที่ปล่อย Trailer แล้วได้เห็นการตอบรับของตัวเองรู้สึกอย่างไรบ้าง?
ต่อ :
ดีใจครับ แต่ผมดูจากการตอบรับรวมๆ รู้สึกดีที่คนให้ความสนใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพ การคาดเดาเรื่อง รู้สึกว่าเค้าสนใจไปกับเราอยู่ครับ

Q : ต่อที่รับบทเป็น “บอส” ทำการบ้านอย่างไรมาบ้าง
ต่อ :
ไปเทรนเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่ Mutual Bar พักใหญ่ๆเลยครับ จริงๆแล้วเป็นเรื่องของการจูนทรรศนคติตัวละคร ทั้งพื้นฐานครอบครัว ความคิดบางอย่างที่ต้องเรียนรู้ใหม่หมด ต้องศึกษาจากผู้กำกับหลายๆอย่างด้วยครับ

One-for-the-Road-วันสุดท้าย.-4-1

Q : ไอซ์ซึเองก็ไปฝึกงานเสิร์ฟเหมือนกัน?
ไอซ์ซึ :
ผมเห็นว่าพี่บาสมีบาร์อยู่ก็เลยไปสมัครงานเป็นลูกน้องประมาณ 1 เดือนครับ เค้าก็ใช้งานผมเต็มที่ครับ ใช้ยิ่งกว่าลูกน้องตัวเองอีกครับ

Q : ขโมยเหล้ากินไหม?
ไอซ์ซึ :
ไม่ครับ แต่ก็แอบทานของอยู่หลังร้านครับ

Q : นอกจากสกิลที่ต้องฝึกฝนและอินกับบท ใน Trailer ที่เห็นไอซ์ซึได้ชัดๆเลยคือด้านกายภาพ ลดน้ำหนักไปกี่กก.?
ไอซ์ซึ :
ลดไป 17 กก. ก่อนที่จะลดช่วงที่เป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านพี่บาสและตอนที่ไปนิวเยอร์ค ผมได้ไปสำรวจและคลุกคลีกับคนที่ทำอาหารอยู่ร้านในนิวเยอร์ค ทำให้รู้ว่าการเป็นเด็กเสิร์ฟมีเวลาชีวิตน้อยมากทำให้ต้องกินอาหารตอนกลางคืน และเป็นอาหารฝรั่งเลยทำให้น้ำหนักขึ้นมา 10 กก. มาถึงช่วงที่ผมถ่ายพาร์ทที่เป็นมะเร็งก็เลยต้องลดน้ำหนักมันเลยลดฮวบลงมาถึง 17 กก.ครับ

Q : มีวิธีลดน้ำหนักอย่างไร?
ไอซ์ซึ :
ผมมีประสบการณ์ในการลดน้ำหนักมาแล้วจากการแสดงเรื่องก่อนหน้านี้ครับ ทำให้เรารู้จักร่างกายตัวเองมากขึ้น หลักๆคือทานน้อยลงแต่มากกว่าครั้งที่แล้ว เสริมเรื่องของการออกกำลังกายทั้งว่ายน้ำและคาดิโอ ที่ผอมแบบป่วยไม่ใช่เพราะเรื่องของกายภาพอย่างเดียว แต่อินเนอร์ข้างในของเราที่ฝังเข้าไปในตัวเราเอง ว่าเราเป็นผู้ป่วยก็เริ่มซึมเข้ามาทำให้ไม่ใช่ในแง่ของการลดน้ำหนักอย่างเดียว มันกลายเป็นเรื่องของจิตใจที่ส่งผลต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นการเดิน การนั่ง การพูด เสียงก็เหมือนคนไม่มีแรงครับ

Q : บรรยากาศตอนถ่ายทำที่นิวยอร์คเป็นอย่างไรบ้าง?
ต่อ :
หนาวครับ
ไอซ์ซึ : สนุกครับ ผมไม่เคยไปนิวยอร์คมาก่อนนี่เป็นครั้งแรก แล้วก็ได้เจอทีมงานคนไทยและฝรั่งที่นั่นด้วยทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกันโดยที่เราคุยกันคนละภาษา ทีมงานไทยที่อยู่ที่นั่นก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นเป็นครอบครัว ได้ความเป็นทีมเวิร์คเยอะไม่ว่าจะเจออุปสรรค ความหนาว การถ่ายทำที่ยาก แต่ก็ไปกันทั้งทีม ทำให้ผมรู้สึกประทับใจกับการทำงานที่นิวยอร์คครับ

Q : เวลาไอซ์ซึอยู่ในกอง เวลาพักกองก็จะไม่เล่น ไม่อะไรกับใคร ยังเป็นอู๊ดอยู่ตลอดเวลา?
ไอซ์ซึ :
จะมีพาร์ทหลังๆที่ไม่พูดครับเพราะเวลาอยู่ในกองผมหิวมาก ถ้าเกิดไปคุบกับพวกเขาที่พักกินข้าวกันอยู่ก็ไม่อยากไปสุงสิงกับเขาเท่าไหร่เพราะเวลาเห็นอาหารแล้วมันหิว ก็เลยแยกตัวออกมาน่ะครับ

One-for-the-Road-วันสุดท้าย

Q : ความน่าสนใจ ความพิเศษ การทำงาน ความสัมพันธ์ตัวละครของบอสและอู๊ด เมื่อถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์แล้วความสัมพันธ์ของคู่นี้ชวนให้ติดตามอย่างไร?
บาส :
ต้องยอมรับว่าต่อและไอซ์ซึมีเคมีที่เข้ากันได้ดี ทำให้ทุกซีนที่เขาแสดงด้วยกันเราเชื่อว่าเขาเป็นเพื่อนรักกันจริงๆครับ

One-for-the-Road-วันสุดท้าย

Q : เมื่อนุ่นต้องมาเจอกับนักแสดงสาย Method หนักๆในเรื่องนี้อย่างไอซ์ซึที่ต้องแสดงเป็นแฟน คัทฉากแล้วก็ไม่พูดคุย จะอยู่กับตัวละครแบบไอซ์ซึเหมือนกัน?
นุ่น :
สำหรับเรื่องนี้ไม่ค่อย เรื่องนี้จะคุยกับน้องไอซ์ซึค่อนข้างเยอะ จะมีการแชร์กันว่าเคยแสดงโดยใช้วิธีหรือหรือเปล่า แชร์ข้อดีข้อเสีย ประสบการณ์ต่างๆ ไม่ได้คุยเรื่องอื่นเลยนอกจากความสัมพันธ์เหมือนทำการบ้านใส่ข้อมูลตัวละคร เพราะเราสองคนในเรื่องต้องรักกันมากๆ ด้วยเพราะเวลาที่ไม่ค่อยเยอะ เลยไม่ค่อยคุยเล่นกันเท่าไหร่ค่ะ

One-for-the-Road-วันสุดท้าย

Q : ออกแบบอยากร่วมงานกับหว่องกาไว?
ออกแบบ :
เคยให้สัมภาษณ์กับแมกกาซีนที่ฮ่องกงไว้ว่าผู้กำกับที่อยากร่วมงานด้วยที่สุดคือคุณหว่องกาไว ครั้งนี้เป็นโอกาส และได้ทำงานร่วมกับพี่บาสด้วย เหมือนได้กลับบ้านค่ะ

Q : มีส่วนไหนที่พัฒนาเพิ่มเติมจากการทำงานในครั้งนี้?
ออกแบบ :
ตัวละครหนูนาในเรื่องนี้เป็นตัวละครที่ออกแบบไม่เคยแสดงมาก่อน ต้องเก็บเกี่ยวข้อมูลและคุยกับพี่ๆมากขึ้น เพราะตัวละครมีความ Deep ค่อนข้างเยอะค่ะ

One-for-the-Road-วันสุดท้าย

Q : อะไรที่ทำให้พลอยเลือกแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก?
พลอย :
พลอยไม่เคยเล่นหนัง พลอยไม่รู้ว่าสเต็ปของการเล่นหนังเป็นอย่างไร แต่เคยร่วมงานกับพี่บาสไปรอบนึงแล้วรู้สึกชอบ และลองไปแคสดู ตอนแรกพี่บาสมาปรึกษาว่าตัวละครนี้เอาใครมาเล่นดี พลอยก็แนะนำคนนั้นคนนี้ไป อยู่ดีๆพี่บาสก็ชวนให้มาแคสดีไหม ลองดู สรุปก็คือได้เล่น รู้สึกว่าอยากลองดู เป็นสิ่งใหม่สำหรับพลอย

Q : เจออะไรในตัวพลอย ที่คิดว่าสามารถเป็นอลิซได้?
บาส :
เรื่องนี้มีความพิเศษตรงที่เวลาผมเขียนบทหนังออกมา จะมีภาพนักแสดงในใจ แต่สำหรับเรื่องนี้ผมไม่ได้มีภาพว่าจะได้ร่วมงานกับใครอยู่ในหัวเลย แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้คือการที่เราได้เห็นเทปแคสติ้งของแต่ละคน ขอบคุณทุกคนมากที่มาร่วมกันแคสให้คุณหว่อง กาไวดู จริงที่ผมสนิทกับพี่พลอย ตอนแรกตัวละคนนี้ก็ไม่ได้มีภาพในหัว แต่พอทำงานด้วยกันแล้วรู้สึกได้ว่าเขาคือเพชรในตม มีของที่รอจังหวะปลดปล่อย ไม่ใช่แค่ผมที่เลือกพี่พลอย แต่คุณหว่อง กาไวก็เลือกพี่พลอยด้วย อยากให้ทุกคนลองไปดูผลงานเรื่องแรกของพี่พลอย

One-for-the-Road-วันสุดท้าย

Q : คาแรกเตอร์ของอลิซที่ต้องทำผมสีแดง คือไอเดียพลอย?
พลอย :
ใช่ค่ะ เพราะพลอยรู้สึกว่าตัวคาแรกเตอร์นี้จะจะเป็นประมาณนี้ เลยทำการบ้านมาและมาเสนอพี่บาสว่าตัวละครนี้ คาแรกเตอร์นี้ได้ไหม ย้อมผมสีแดงได้ไหม หลังจากที่พี่บาสไปปรึกษาคุณหว่อง กาไว ผลก็คือให้ย้อมผมสีแดง

Q : ตัวละครพิมพ์ที่วีเล่นมีความเหมือนวีมาก?
วี :
วีเองไม่ได้รู้สึกว่าเหมือนมาก แต่หลายๆความคิดในการตัดสินใจของตัวละครพิม ถ้าวีอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน มันมีอะไรที่คล้ายๆกันที่วีคิดว่าตัววีเองก็น่าจะตัดสินใจอะไรประมาณนี้ ตัวละครพิมพ์เป็นคนมีฝัน ตัวเราเองก็เป็นคนทะเยอทะยานในความฝันเหมือนกัน อาจจะเป็นจุดนี้ที่ทำให้รู้สึกดูใกล้กันนิดนึง

Q : ในเรื่องรับบทเป็นบาร์เทนเดอร์ ต้องไปฝึกฝนเหมือนคนอื่นๆไหม?
วี :
ช่วงนั้นออกทุกคืนเลยค่ะ ไปฝึกชง เรียนรู้วิธีการเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่ Mutual Bar มีวันนึงไปอีกบาร์นึงซึ่งบาร์เทนเดอร์ที่นั่นไม่รู้ว่าเราเป็นนักแสดง พี่ที่เป็นบาร์เทนเดอร์ที่นั่นก็ถามว่า “นั่นชงเครื่องดื่มหรือชงกาแฟคะ” เพราะเราไปทำเงอะๆงะๆแบบของเรา แต่ได้ไปฝึกงานมาจริงๆ

Q : ในช่วงที่หัดชง มีแอบเทเหล้าให้ตัวเองบ้างไหม?
วี :
จริงๆเราต้องชิมทุกแก้วก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า ถ้าอร่อยถึงจะเอาไปเสิร์ฟได้

Q : การแสดงของวีเป็นอย่างไรบ้าง?
บาส :
จริงๆผมกับวีทำงานมาด้วยกันหลายงานแล้ว ตอนแรกที่เขียนคาแรกเตอร์ขึ้นมามีภาพในหัวประมาณนึง แต่พอรู้ว่าวีต้องมาเล่น เลยดึงเสน่ห์บางอย่างของวีออกมาปรับใช้กับตัวละคร ผมว่าความเป็นวีกับความเป็นพิมพ์ในเรื่องมันคู่ขนานกันไป แต่สุดท้ายไปรวมกันแล้วครีเอทคาแรกเตอร์ของตัวละครพิมพ์ขึ้นมาได้

Q : ช่วยพูดถึงซีนที่ต้อง improvise กลางสายฝนในนิวยอร์กหน่อย?
วี : โอ้โห
ซีนนั้นเป็นซีนที่หนาวมากๆ ถ่ายตอนประมาณตี 3 ใส่เสื้อแค่ 2 ชั้น ต่อได้ใส่หลายชั้น แต่ตัววีเองได้ใส่แค่ 2 ชั้น แล้วออกไปยืนตรงนั้นประมาณ 3 ชั่งโมง แล้วรู้สึกหนาวมาก ทุกครั้งที่สั่งแอคชั่นต้องสะกดตัวเองไม่ให้สั่น แต่พอสั่งคัทก็กลับมาตัวสั่น เป็นอะไรที่ท้าทายกับลมฟ้าอากาศมาก สนุกดีค่ะ

Q : เล่าเรื่องตอนเวิร์คช็อปกับแอคติ้งโค้ช หรือผู้กำกับหน่อย?
ออกแบบ :
ตอนเวิร์คช็อปเรามีการแชร์กันว่าเราชอบผู้ชายแบบไหน เราชอบเป็นผู้นำ หรือชอบให้ผู้ชายตามใจ เป็นสายง้องแง้งหรือสายคุมอำนาจ มีการดิสคัสเกิดขึ้นในตอนเวิร์คช็อปด้วย
นุ่น : ชอบตอนเวิร์คช็อปที่เราแต่ละคนมาคุยกันถึงอู๊ดว่าในสายตาแต่ละคนเป็นอย่างไร พอได้ฟังแล้วมีความรู้สึกว่าอู๊ดเป็นของเรามาก ได้เห็นมุมมองของผู้หญิงคนอื่นว่าเขามองกันอย่างไร การเวิร์คช็อปแบบนี้ดีมาก สนุกดี

Q : สิ่งที่บาสให้ความสำคัญมาก คือการครีเอทคาแรกเตอร์ของตัวนักแสดง
บาส :
ความพิเศษอยู่ตรงที่ ผมเบสจากคนที่มีตัวตนจริงๆ ในฐานะคนทำงานเราต้องให้เกียรติคนเหล่านั้นด้วยการดึงความทรงจำที่ผมมีกับตัวเขามาเป็นต้นทุนในการทำหนัง เลยต้องลงลึก ทำยังไงก็ได้ให้มั่นใจว่าจะจะถ่ายทอดบุคลิค ถ่ายทอดเสน่ห์ และความทรงจำที่เรามีต่อเขามาให้ดีที่สุดในฐานะผู้กำกับ

Q : ได้รางวัลอะไรจาก เทศกาล Sundance Film Festival 2021
บาส :
รางวัล World Dramatic Special Jury Award for Creative Vision ให้ในเชิงภาพของหนัง ที่ต้องให้เครดิตทีมงาน ทั้งตากล้อง ทีมอาร์ต ทีมเสื้อผ้าที่ครีเอทออกมาให้ทุกคนได้ดูกัน

สุดท้ายนี้ให้ทุกคนฝากอะไรถึงผู้ชมหน่อย?

วี : ฝากทุกคนติดตาม one for the road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ด้วยนะคะ เชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกไปกับหนัง และเต็มอิ่มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายมากๆ สนุกแน่นอน

พลอย : ก่อนวาเลนไทน์นี้ ถ้าอยากรู้สึกหลายอารมณ์ ขอให้แวะเข้ามาดู one for the road นะคะ เพราะคุณจะอิ่มเปมไปกับทุกอารมณฺมากๆเลยค่ะ ส่วนใครอยากไปลองค็อกเทลของพวกเราแวะไปที่ oftr bar ได้นะคะ

นุ่น : อยากชวนให้มาหาเมมโมรี่ของชีวิตค่ะ นุ่นว่าแฟนเก่าเหมือนต้นทุนบางอย่างของชีวิตเหมือนกัน น่าจะมาดูได้ในทุกช่วงวัยของทุกคนเลย เชื่อว่าในที่นี้มากกว่า 90% น่าจะมีแฟนเก่า มาค้นหาความทรงจำแล้วเผื่อจะได้ตกผลึกอะไรบางอย่างค่ะ

ออกแบบ : อยากบอกว่าเป็นหนังที่พวกเราตั้งใจปั้นกันมากๆค่ะ ก่อนวาเลนไทน์ปีนี้ มารื้อฟื้นความทรงจำดีๆของแฟนเก่ากันค่ะ

ไอซ์ซึ : ผมขอการันตีถึงความคุ้มค่าของหนังเรื่องนี้ครับ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน ไล่มาตั้งแต่ชื่อโปรดิวเซอร์ พี่หว่อง กาไว พี่บาส จากฉลาดเกมส์โกง ทีมนักแสดง และรางวัลการันตีจาก Sundance Film Festival 2021 ผมเชื่อว่าเรื่องนี้คุ้มค่าแน่นอน หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ

ต่อ : สุดท้ายแล้วหนังเรื่องนี้สนุกแน่นอนครับ ไม่ดูยากอย่างที่คิดครับ ผมอยากให้ทุกคนลองดู เชื่อว่าคุ้มค่าอย่างที่ทุกคนบอกมาแน่นอนครับ

บาส : หวังว่าการไปชมภาพยนต์เรื่องนี้อาจจะทำให้นึกย้อนไปถึงประสบการณ์บางอย่างที่คนดูแต่ละคนมี ผมว่าช่วงเวลานี้ชีวิตค่อนข้างเซนซิทีฟระดับนึง ผมว่าการได้ดูหนังแล้วสามารถ reflect ความคิด หรือชีวิตบางอย่างที่ผ่านมา แล้วตั้งคำถามตัวเองว่า ถ้าเรายังมีเวลาอยู่และสามารถทำได้ เราอยากจะใช้เวลาเดินทางและดื่มเหล้าแก้วสุดท้ายกับใครในชีวิตที่เหลืออยู่ ฝากให้ไปชมกันในโรงภาพยนต์ด้วยนะครับ

ความคิดถึง ‘แฟนเก่าส์’ ผ่าน ‘เรื่องเหล้า’ ของความรัก มิตรภาพ และการเดินทาง “One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” 10 ก.พ.นี้ ในโรงภาพยนตร์

https://youtu.be/h_SC9sXZlck
Share via
Copy link
Powered by Social Snap